ผงโกโก้ และช็อคโกแลตแตกต่างอย่างไร หากพูดถึงเครื่องดื่มยอดนิยมในดวงใจ ที่นอกเหนือจากเมนูชานมและเมนูกาแฟแล้ว หลายคนคงจะนึกถึงเมนูโกโก้และช็อคโกแลต เพราะเป็นเมนูเครื่องดื่มที่มีรสชาติเข้มข้น สีน้ำตาลสวยธรรมชาติและมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ นอกจากจะนำมาชงเป็นเครื่องดื่มแล้ว ยังสามารถนำไปเป็นส่วนผสมในการทำเบเกอรี่ได้อีกด้วย
แล้วโกโก้กับช็อคโกแลตมีความแตกต่างกันยังไง?
ผงโกโก้และช็อคโกแล็ตที่จริงทั้งสองมีแหล่งกำเนิดมาจากที่เดียวกัน เพราะทั้งคู่ผลิตมาจากเมล็ดของต้นคาเคา (Cacao) หรือที่เรามักจะรู้จักและเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ โกโก้ “ นั่นเอง ซึ่งโดยปกติแล้วเมล็ดคาเคาหรือเมล็ดโกโก้จะมีความขมในตัวอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเก็บฝักโกโก้มาแล้วจะต้องนำไปทำการหมักบ่มตามเวลาเพื่อให้เกิดรสชาติ หลังจากนั้นก็จะนำไปตากแห้งก่อนนำมาคั่วในอุณหภูมิที่เหมาะสม หลังจากคั่วเสร็จจะนำมาแกะเปลือกออกเราก็จะได้เมล็ดโกโก้ที่เรียกว่า “ โกโก้นิปส์ ” เราจะนำโกโก้นิปส์ที่ได้ไปบดด้วยความเร็วและอุณหภูมิสูง เพราะความร้อนจะทำให้สีของโกโก้เปลี่ยนและเข้มขึ้นโดยธรรมชาติ และช่วยให้เนื้อโกโก้มีความเหนียวขึ้น เนื้อโกโก้ที่ถูกบีบอัดด้วยความร้อน เพื่อสกัดเอาไขมันออก จะถูกนำไปตากให้แห้งแล้วนำมาบดจนกลายเป็นผง ซึ่งผงที่ได้จะเป็นในส่วนของ “ผงช็อคโกแลต ” จะถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่หนึ่ง เนื้อโกโก้ ซึ่งจะเป็นส่วนที่รวมรสชาติช็อคโกแลตที่เข้มข้น ส่วนที่สอง คือ ไขโกโก้ เป็นแหล่งรวมความหอมมันที่มีอยู่ในเมล็ดซึ่งเป็นรสชาติและกลิ่นที่เป็นธรรมชาติ พอเราบดและสกัดไขมันออก เราก็จะได้ “ ผงโกโก้ ” ที่สามารถนำมาชงเครื่องดื่มและใช้เป็นส่วนผสมเบเกอรี่ได้นั่นเอง
กว่าจะมาเป็นช็อคโกแลต และ โกโก้ มีวิธีการอย่างไร
CHOCOLATE VS COCOA กระบวนการแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างผงโกโก้ และช็อคโกแลต
- คัดสรรเมล็ดพันธุ์คุณภาพดี
- หมักบ่มตามกาลเวลา
- นำไปตากให้แห้ง
- คั่วในอุณหภูมิที่เหมาะสม
- แกะเปลือกออกจะได้ “โกโก้นิปส์”
- บดโกโก้นิปส์แล้วนำไปบีบอัดแยกไขมันออก ก็จะได้สองส่วนสำคัญนั่นก็คือ “เนื้อโกโก้” และ “ไขมันโกโก้”
ดังนั้น ผงโกโก้ก็คือช็อกโกแลตที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการสกัดไขมันออกไปแล้ว ถ้าเราเห็นผงโกโก้ และช็อคโกแลตวางขายตามท้องตลอด จะสังเกตได้ว่าไขมันในผงโกโก้ส่วนใหญ่จะมีเพียง 0-25% ทำให้โกโก้มีรสชาติที่เข้มข้น มีกลิ่นหอม มีรสช็อคโกแลตจนบางยี่ห้อทำให้เรารู้สึกมีรสขมติดคอ ส่วนในช็อคโกแลต จะมีไขมันอยู่ 55% เป็นอย่างต่ำ จึงให้รสชาติหอมมัน ซึ่งเหมาะกับนำไปทำเบเกอรี่มากกว่าเครื่องดื่ม
ดูบทความเพิ่มเติม