สำหรับคนรักชาเขียว โดยเฉพาะ “มัทฉะ (Matcha)” หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดคือ “ควรชงด้วยน้ำร้อนหรือน้ำเย็น?” หลายคนอาจคิดว่าแค่ชงให้ละลายก็คงเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริง อุณหภูมิของน้ำคือตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อทุกมิติของมัทฉะ ตั้งแต่รสชาติ กลิ่น สี ไปจนถึงคุณประโยชน์ของมัทฉะ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายมัทฉะเข้มข้นที่ดื่มแบบดั้งเดิม หรือเป็นสายคาเฟ่ที่มองหาความสดชื่นในเมนูมัทฉะลาเต้เย็น บทความนี้จาก MOMO MATCHA จะเป็นคู่มือที่ช่วยให้คุณค้นพบว่า “ชงมัทฉะน้ำร้อน VS น้ำเย็น นั้นแตกต่างกันอย่างไร?” และแบบไหนคือคำตอบที่ “ดีกว่า” สำหรับคุณ
มัทฉะคืออะไร ?
ก่อนจะไปถึงเทคนิคการชง เรามาทบทวนกันสั้น ๆ ว่ามัทฉะคืออะไร? มัทฉะ ต่างจาก “ผงชาเขียว” ทั่วไป เริ่มต้นตั้งแต่การเพาะปลูก ใบชา “ที่เรียกว่า Tencha“ จะถูกคลุมด้วยตาข่ายเพื่อพรางแสงแดด เป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนการเก็บเกี่ยว กระบวนการนี้บังคับให้ใบชาผลิตคลอโรฟิลล์ และกรดอะมิโนจำเป็น โดยเฉพาะ “แอล-ธีอะนีน (L-theanine)” มากขึ้น ทำให้มัทฉะมีสีเขียวสดใสและรสชาติ “อูมามิ” ที่ไม่เหมือนชาเขียวทั่วไป หลังจากนึ่งและอบแห้ง ใบชาจะถูกคัดแยกเส้นใบออก ก่อนจะนำไปบดด้วย “โม่หิน” อย่างช้า ๆ จนได้เป็นผงละเอียดเหมือนแป้ง
ทำไมวิธีชงมัทฉะจึงสำคัญ?
เพราะมัทฉะคือ “ผงใบชาทั้งใบ” ไม่ใช่การสกัดแบบชาซอง เวลาเราชงมัทฉะ เรากำลัง “ดื่ม” ใบชาเข้าไปทั้งใบ 100% อุณหภูมิของน้ำจึงทำหน้าที่เป็น “ตัวทำละลาย” ที่ดึงเอาสารประกอบต่าง ๆ ในผงมัทฉะออกมาในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน :

- คาเทชิน (Catechins) / EGCG : สารต้านอนุมูลอิสระทรงพลัง มีรสฝาดและขม
- แอล-ธีอะนีน (L-theanine) : กรดอะมิโนที่ให้รสอูมามิ ความหวาน และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายแต่ตื่นตัว (Calm Focus)
- คาเฟอีน (Caffeine) : สารกระตุ้นที่ช่วยให้ตื่นตัว
- คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) : ให้สีเขียวสดและกลิ่นหอมสะอาด
การเลือกใช้น้ำร้อนหรือน้ำเย็น จึงเป็นการตัดสินใจว่าเราอยาก “ปลุก” สารตัวไหนขึ้นมาในแก้วนั้น
ชงมัทฉะน้ำร้อน VS น้ำเย็น แตกต่างกันอย่างไร?
นี่คือสิ่งสำคัญของบทความนี้ เราจะมาแจกแจงความแตกต่างใน 4 เรื่องสำคัญ ที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การดื่มมัทฉะของคุณไป

1. อุณหภูมิน้ำส่งผลต่อการละลายของมัทฉะ
เรื่องแรกที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ “การละลาย” แม้ในทางเทคนิค มัทฉะจะไม่ “ละลาย” แต่ “แขวนลอย” ในน้ำก็ตาม
- การชงด้วยน้ำร้อน
- ข้อดี : น้ำร้อนมีพลังงานจลน์สูง ช่วยให้ผงมัทฉะที่บดละเอียดแตกตัวและแขวนลอยในน้ำได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่เนียน โดยเฉพาะเมื่อใช้ “ฉะเซ็น” (Chasen) หรือแปรงชงชาไม้ไผ่ตีให้ขึ้นฟอง
- ข้อควรระวัง : หากน้ำร้อนเกินไป (เช่น น้ำเดือด 100°C) จะ “ลวก” ผงมัทฉะทันที ทำให้ผงจับตัวเป็นก้อนเล็ก ๆ และชงให้เนียนได้ยากขึ้น
- การชงด้วยน้ำเย็น
- ข้อดี : ผงมัทฉะจะไม่ถูกความร้อนลวก ทำให้โอกาสจับตัวเป็นก้อนแข็ง ๆ น้อยกว่า
- ข้อควรระวัง : การละลายจะช้ากว่ามาก ต้องใช้ “แรง” เข้าช่วย หากใช้แค่ช้อนคน มัทฉะจะนอนก้นและไม่เข้ากับน้ำ วิธีที่ดีที่สุดคือการใช้ “เชกเกอร์ (Shaker)” หรือขวดที่มีฝาปิด เขย่าแรง ๆ ประมาณ 15-20 วินาที หรือใช้ที่ตีฟองนมไฟฟ้า
2. รสชาติที่ได้แตกต่างกัน
นี่คือความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดสำหรับนักดื่มมัทฉะ
- การชงด้วยน้ำร้อน
- น้ำร้อนจะดึงเอาสารประกอบทุกตัวออกมาอย่าง “เต็มที่” โดยเฉพาะกลุ่มคาเทชิน ซึ่งมีรสขมและฝาด
- ผลลัพธ์คือรสชาติที่เข้มข้น, กลิ่นหอมชัดเจน, และมีรสขมปลายลิ้น ซึ่งเป็นเสน่ห์ของมัทฉะแบบดั้งเดิม หากใช้น้ำที่ร้อนเกินไป (เกิน 80°C) รสขมนี้จะโดดเด่นจนกลบความอูมามิไป
- ให้มิติของรสชาติที่ซับซ้อน ตั้งแต่กลิ่นหอมคล้ายหญ้าสด ไปจนถึงรสอูมามิ และจบด้วยความขมที่มีเสน่ห์
- การชงด้วยน้ำเย็น
- น้ำเย็นเป็น “ตัวทำละลายที่อ่อนโยน” มันจะค่อย ๆ ดึงรสชาติออกมา
- น้ำเย็นจะดึงแอล-ธีอะนีน (รสอูมามิ/ความหวาน) ออกมาได้ดี แต่ดึงคาเทชิน (รสขม/ฝาด) ออกมาได้น้อยกว่ามาก
- ผลลัพธ์คือรสชาติที่นุ่ม, หอมละมุน, ดื่มง่าย และแทบไม่มีรสขมเลย คุณจะสัมผัสได้ถึงความหวานตามธรรมชาติ ของใบชาอย่างชัดเจน
3. สารอาหารและประโยชน์ที่แตกต่าง
อุณหภูมิที่ต่างกัน ไม่เพียงเปลี่ยนรสชาติ แต่ยังเปลี่ยน “สารอาหาร” ที่คุณจะได้รับด้วย
- การชงด้วยน้ำร้อน
- สารอาหารเด่น : คาเทชิน (Catechins) และ คาเฟอีน (Caffeine)
- หากคุณต้องการประโยชน์สูงสุดจากสารต้านอนุมูลอิสระ (EGCG) งานวิจัยพบว่าน้ำร้อนสามารถสกัดสารเหล่านี้ออกมาได้มากกว่าน้ำเย็น
- คาเฟอีนก็เช่นกัน น้ำร้อนจะดึงคาเฟอีนออกมาได้เร็วกว่า ทำให้แก้วนี้เหมาะสำหรับการ “ปลุก” ให้ตื่นในตอนเช้า
- การชงด้วยน้ำเย็น
- สารอาหารเด่น : แอล-ธีอะนีน (L-theanine) และ คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll)
- น้ำเย็นช่วย “รักษา” สารประกอบที่ละเอียดอ่อนซึ่งสลายตัวได้ง่ายเมื่อโดนความร้อน
- แอล-ธีอะนีน จะถูกดึงออกมาอย่างเต็มที่ ทำให้มัทฉะเย็นให้ความรู้สึก “สงบแต่ตื่นตัว” เหมาะสำหรับการดื่มเพื่อใช้สมาธิ
- คลอโรฟิลล์จะคงอยู่อย่างสมบูรณ์ ทำให้มัทฉะเย็นมักมีสีเขียวที่สดและสว่างกว่าการชงด้วยน้ำร้อน
4. การใช้งานที่ต่างกัน
จากคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมา ทำให้การชงทั้งสองแบบเหมาะกับเมนูที่แตกต่างกัน
| ประเภทเมนู | วิธีชงที่เหมาะ | เหตุผล |
| มัทฉะลาเต้ร้อน | น้ำร้อน | ต้องใช้ความร้อนในการตีมัทฉะให้เป็นเบส เข้มข้น เพื่อให้ผสมเข้ากับนมร้อนที่สตรีมมาได้อย่างเนียน ไม่แยกชั้น |
| มัทฉะลาเต้เย็น | น้ำเย็น | ชงแบบ Cold Brew ในเชกเกอร์จะให้เบสมัทฉะที่รสนุ่ม ไม่ขม เมื่อผสมกับนมเย็นและน้ำแข็ง รสชาติจะกลมกล่อมลงตัว |
| มัทฉะโซดา / มัทฉะมะนาว | น้ำเย็น | ความสดชื่นคือหัวใจ น้ำเย็นให้สีเขียวสดและรสที่สะอาด (Clean) ไม่ขมฝาด จึงเข้ากันได้ดีกับความเปรี้ยวซ่า |
| มัทฉะเพียว | น้ำร้อน (70-80°C) | เป็นวิธีเดียวที่จะดึงกลิ่นหอม และมิติรสชาติที่ซับซ้อนของชาออกมาได้ครบถ้วนตามแบบฉบับพิธีชงชา |
ชงมัทฉะน้ำร้อน VS น้ำเย็น แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?

- หากคุณต้องการดื่มรสชาติดั้งเดิม : ต้องการกลิ่นหอมที่ซับซ้อน รสชาติเข้มข้น อูมามิ และความขมปลายลิ้นที่มีเสน่ห์ หรือต้องการชงเป็นลาเต้ร้อน “น้ำร้อน” คือคำตอบ
- หากคุณต้องการความสดชื่น : ต้องการเครื่องดื่มที่ดื่มง่าย รสนุ่ม หวานละมุน ไม่ขม หรือต้องการชงเป็นเมนูเย็นผสมนม โซดา หรือน้ำผลไม้ “น้ำเย็น” คือคำตอบ
เคล็ดลับการชงมัทฉะให้อร่อย ไม่ว่าจะใช้น้ำร้อนหรือน้ำเย็น
ไม่ว่าคุณจะเลือกทีมไหน เคล็ดลับ 3 ข้อนี้จะช่วยให้มัทฉะแก้วโปรดของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

1. เลือกผงมัทฉะเกรดที่เหมาะ
นี่คือข้อที่สำคัญที่สุด คุณภาพของวัตถุดิบกำหนดทุกอย่าง มัทฉะไม่ได้มีเกรดเดียว แต่แบ่งตามการใช้งาน
- มัทฉะเกรดพิธี (Ceremonial Grade) :
- ทำจากยอดอ่อนที่สุด (เก็บเกี่ยวครั้งแรก) รสอูมามิสูง สีเขียวสว่าง รสขมน้อยที่สุด
- เหมาะสำหรับ : การชงกับน้ำร้อน (หรือน้ำเย็น) ดื่มแบบบริสุทธิ์ (Usucha) เพื่อสัมผัสรสชาติที่แท้จริง
- มัทฉะเกรดลาเต้ (Latte Grade) หรือ เกรดพรีเมียม (Premium Grade) :
- ทำจากใบชาที่โตขึ้นมาเล็กน้อย ให้รสชาติชาที่ “เข้ม” และ “ชัดเจน” ขึ้น
- เหมาะสำหรับ : การชงเป็นเมนูเย็น หรือผสมนม/ไซรัป เพราะรสชาติชาที่เข้มจะ “สู้” กับส่วนผสมอื่นได้ดี ไม่ถูกกลบจนจืดชืด
2. สัดส่วนน้ำและผงมัทฉะ
สัดส่วนมาตรฐานที่บาริสต้าใช้กัน คือ :
- ผงมัทฉะ 1 ช้อนชา (ประมาณ 2 กรัม) ต่อ น้ำ 60–80 มิลลิลิตร
- สำหรับร้อน ชงแบบบางใช้สัดส่วนนี้กับน้ำร้อน 70-80°C
- สำหรับชงเย็น สามารถเพิ่มน้ำได้ถึง 100-120 มิลลิลิตร เพื่อความสดชื่น
- เคล็ดลับ : หากต้องการเข้มขึ้น ให้ลดน้ำ หรือเพิ่มมัทฉะเล็กน้อย และที่สำคัญ “ควรร่อนผงมัทฉะผ่านตะแกรง” เสมอ เพื่อลดการจับตัวเป็นก้อน
3. อุปกรณ์ที่ช่วยให้ละลายเนียน
อย่างที่กล่าวไป มัทฉะไม่ละลาย แต่แขวนลอย ดังนั้นการ “ตี” ให้เนียนจึงสำคัญมาก
- สำหรับชงร้อน : “ฉะเซ็น” (Chasen) หรือแปรงชงชาไม้ไผ่ คืออุปกรณ์ที่ดีที่สุด ให้ตีเป็นรูปตัว “W” หรือ “M” เร็ว ๆ เพื่ออัดอากาศเข้าไป จนเกิดฟองโฟมละเอียด
- สำหรับชงเย็น : “เชกเกอร์” (Shaker) หรือขวดโหลที่มีฝาปิด คือเพื่อนที่ดีที่สุด ใส่น้ำเย็น ผงมัทฉะ (และน้ำแข็ง ถ้าชอบ) แล้วเขย่าแรง ๆ 20 วินาที
- ทางเลือก : “ที่ตีฟองนมไฟฟ้า” (Electric Frother) สามารถใช้แทนชาเซ็นได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อต้องการทำเบสมัทฉะสำหรับลาเต้
แนะนำมัทฉะคุณภาพจากญี่ปุ่น MOMO MATCHA
เมื่อทราบถึงเทคนิคการชงและเลือกวิธีที่เหมาะสมแล้ว หัวใจสำคัญที่สุดที่จะทำให้มัทฉะของคุณสมบูรณ์แบบก็คือ “คุณภาพของผงมัทฉะ” ที่คุณเลือกใช้เราคัดสรรมัทฉะแท้นำเข้าจากญี่ปุ่น เพื่อตอบโจทย์ทุกการใช้งานในร้านของคุณ
ผงมัทฉะพรีเมียม (Matcha Premium)

(เกรดสำหรับความหลากหลาย : เหมาะสำหรับลาเต้และเบเกอรี)
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนรักชาเขียวที่มองหาความคุ้มค่าและหลากหลาย ผงมัทฉะเกรดพรีเมียมของ MOMO MATCHA นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่หลากหลายโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับร้านชานมไข่มุก ร้านกาแฟ และผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์เมนูที่ต้องการรสชาติชาเขียวที่ชัดเจนและสีสวยงาม
- ประหยัดและเข้มข้น : ใช้ในปริมาณน้อย เพียง 1-2 ช้อนชา แต่ยังคงให้รสสัมผัสที่นุ่มละมุนและสีเขียวธรรมชาติ
- เนื้อผงละเอียด : ผลิตออกมาให้เนียนละเอียด ง่ายต่อการชงละลาย ไม่จับตัวเป็นก้อน
- มัทฉะแท้ 100% : มั่นใจได้ว่าไม่มีการผสมแป้ง หรือเติมแต่งสีและกลิ่นสังเคราะห์ใดๆ ทั้งสิ้น
การใช้งานที่แนะนำ : เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเมนูผสมนม เช่น มัทฉะลาเต้ (ร้อน/เย็น), ชาเขียวปั่น, หรือนำไปเป็นส่วนผสมหลักในขนมและเบเกอรี ที่ต้องการรสชาติและสีของมัทฉะที่ชัดเจน
วิธีเก็บรักษา : ควรเก็บในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด หากเปิดใช้แล้ว แนะนำให้ใส่กระปุกที่ปิดฝาสนิท เพื่อป้องกันอากาศและความชื้น
ขนาดและราคา : ขนาด 250 กรัม / ราคา 300 บาท
ผงอูจิมัทฉะ (Uji Matcha)

(เกรดต้นตำรับอุจิ : เหมาะสำหรับเมนู Signature และชงแบบพิธี)
สัมผัสรสชาติชาเขียวมัทฉะต้นตำรับจากญี่ปุ่นแท้ 100% ด้วยผงอูจิมัทฉะ (Uji Matcha) เกรดพรีเมียม ที่คัดสรรใบชาเขียวอ่อนคุณภาพดีจากไร่ชาใน เมืองอุจิ (Uji) โดยเฉพาะ เราพิถีพิถันทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกใบชาสด ไปจนถึงกรรมวิธีบดด้วยหิน ตามแบบฉบับญี่ปุ่นโบราณ
- รสชาติกลมกล่อม : ให้รสชาเขียวแท้ที่นุ่มนวล ไม่ขมฝาด มีรสอูมามิชัดเจน
- กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ : มีกลิ่นหอมละมุนที่เป็นเอกลักษณ์ของมัทฉะชั้นสูง
- เนื้อผงเนียนละเอียดพิเศษ : เนื้อผงละเอียด นุ่ม เนียน ชงง่าย
- ธรรมชาติ 100% : ปราศจากแป้ง สี และกลิ่นสังเคราะห์
การใช้งานที่แนะนำ : เหมาะสำหรับการชงแบบดั้งเดิม ที่ใช้แปรงไม้ไผ่ (Chasen) กับน้ำร้อน (ไม่เกิน 80°C) เพื่อดึงรสชาติและกลิ่นหอมที่ดีที่สุดออกมา หรือใช้สำหรับสร้างสรรค์เมนูมัทฉะ Signature ที่ต้องการโชว์รสชาติอูมามิของชาคุณภาพสูง
วิธีเก็บรักษา : ควรเก็บในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด หากเปิดใช้แล้ว แนะนำให้ใส่กระปุกที่ปิดฝาสนิท เพื่อป้องกันอากาศและความชื้น
ขนาดและราคา : ขนาด 250 กรัม / ราคา 700 บาท
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ “ชงมัทฉะน้ำร้อน VS น้ำเย็น” (FAQ)
- ถาม : มัทฉะที่ชงด้วยน้ำเย็นให้รสชาติต่างจากน้ำร้อนมากไหม?
- ตอบ : ต่างกันชัดเจน น้ำเย็นจะให้รสนุ่ม หวานละมุน และหอมอ่อน ๆ แทบไม่มีความขมเลย เหมาะกับเมนูเย็นหรือใส่นม ในขณะที่น้ำร้อนจะดึงรสชาติที่เข้มข้น กลิ่นหอมชัด และความขมปลายลิ้น (ซึ่งเป็นเสน่ห์ของชา) ออกมามากกว่า
- ถาม : ถ้าไม่มีชาเซ็น (แปรงชงชา) ใช้อะไรแทนได้ไหม?
- ตอบ : หากชงร้อน สามารถใช้ “ที่ตีฟองนมไฟฟ้า” แทนได้ดี ช่วยให้มัทฉะเนียนและเกิดฟองเหมือนกัน หากชงเย็น ให้ใช้ “เชกเกอร์” หรือขวดที่มีฝาปิดสนิท เขย่าแรง ๆ จะช่วยให้มัทฉะละลายได้เนียนและเร็วที่สุด
- ถาม : ควรใช้น้ำร้อนอุณหภูมิเท่าไรในการชงมัทฉะ?
- ตอบ : อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดคือ 70–80°C “ห้ามใช้น้ำเดือด 100°C เด็ดขาด” เพราะน้ำที่ร้อนเกินไปจะ “เผา” ใบชา ทำให้มัทฉะมีรสขมจัดและกลิ่นหอมดี ๆ จะหายไป
- ถาม : มัทฉะเกรดลาเต้ (Latte Grade) สามารถนำมาชงร้อนดื่มเปล่า ๆ ได้ไหม?
- ตอบ : สามารถทำได้ แต่รสชาติที่ได้จะ “เข้ม” และ “ฝาด” กว่าเกรดพิธี อย่างชัดเจน เนื่องจากเกรดลาเต้ถูกออกแบบมาให้มีรสชาติที่หนักแน่นพอที่จะสู้กับความมันของนมหรือความหวานของไซรัป ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้เกรดพิธีสำหรับการชงดื่มเปล่า ๆ จะได้รสชาติที่ละเมียดและสมดุลกว่า
ช่องทางการติดต่อและสั่งซื้อ :
- TEL : 064-845-6698
- LINE : @MOMOMATCHA
- FACEBOOK FANPAGE : ผงมัทฉะ เกรดพรีเมี่ยม Momo Matcha

