Skip to content

มัทฉะสายพันธุ์เดี่ยว vs มัทฉะเบลนด์ ต่างกันอย่างไร? เลือกแบบไหนดี?

    กระแสความนิยมของ “มัทฉะ (Matcha)” ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดเครื่องดื่มและเบเกอรี่ ไม่ว่าจะเป็นมัทฉะลาเต้, เพียวมัทฉะ หรือเบเกอรี่รสมัทฉะ แม้ว่าคำว่า “มัทฉะ” จะเป็นที่รู้จักอย่างมากแล้ว แต่สำหรับผู้ประกอบการร้านเครื่องดื่ม หลายคนอาจยังไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่าง “มัทฉะสายพันธุ์เดี่ยว (Single-Origin)” กับ มัทฉะเบลนด์ (Blended)” ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อรสชาติ, ต้นทุน และความพึงพอใจของลูกค้า

    การเลือกชนิดของมัทฉะที่เหมาะสมไม่เพียงแต่จะกำหนดรสชาติ และกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเมนูในร้านคุณ แต่ยังส่งผลต่อการชง, การควบคุมต้นทุน และความคุ้มค่าในระยะยาวอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจมัทฉะให้ลึกยิ่งขึ้น ตั้งแต่ความหมายของมัทฉะ, จุดเด่นของมัทฉะแต่ละประเภท, เปรียบเทียบข้อดีข้อด้อยอย่างละเอียด ไปจนถึงเคล็ดลับในการเลือกมัทฉะให้เหมาะกับสไตล์ของร้านคุณ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและสร้างสรรค์เมนูมัทฉะที่โดดเด่นที่สุด!

    มัทฉะ (Matcha) คือผงชาเขียวบดละเอียดที่ผลิตจากใบชาชนิดพิเศษที่เรียกว่า “เทนฉะ (Tencha)” ซึ่งผ่านกระบวนการเพาะปลูกและดูแลที่แตกต่างจากชาเขียวทั่วไป โดยใบชาจะถูกคลุมด้วยตาข่ายเพื่อบังแสงแดดก่อนการเก็บเกี่ยว ทำให้ใบชามีสีเขียวสด และอุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์และกรดอะมิโน L-theanine ซึ่งเป็นที่มาของรสชาติ “อูมามิ” อันเป็นเอกลักษณ์

    รู้หรือไม่? "มัทฉะสายพันธุ์เดี่ยว" และ "มัทฉะเบลนด์" ต่างกันในเรื่องกลิ่น รส และต้นทุนอย่างไร? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับร้านคุณ ดูได้ที่นี่!

    Momomatcha ผู้เชี่ยวชาญมัทฉะได้ให้คำนิยามไว้ว่า “ผงมัทฉะ ผลิตมาจากใบชาญี่ปุ่น ผ่านกระบวนการบดละเอียด ไม่มีการผสมแป้ง หรือเติมแต่งสีและกลิ่นใด ๆ” เมื่อชงออกมาอย่างถูกวิธี น้ำชาที่ได้จึงมีสีเขียวมรกตตามธรรมชาติ กลิ่นหอมสดชื่น และรสชาติชาเขียวที่เข้มข้น กลมกล่อม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของมัทฉะคุณภาพดี

    ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ มัทฉะจึงสามารถนำไปสร้างสรรค์เมนูได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มร้อน, เครื่องดื่มเย็น, เครื่องดื่มปั่น, เบเกอรี่, ไอศกรีม และของหวานต่าง ๆ ความสำคัญที่สุดคือการเลือกใช้มัทฉะที่ “บริสุทธิ์” ปราศจากส่วนผสมอื่นเจือปน เช่น แป้ง, สี หรือกลิ่นสังเคราะห์ เพราะสิ่งเหล่านี้จะกลบรสชาติของใบชาลงไป

    คำว่า “สายพันธุ์เดี่ยว” ในที่นี้สามารถมองได้สองแบบ คือ Single-Origin (มาจากแหล่งปลูกเดียว) และ Single Cultivar (มาจากชาสายพันธุ์เดียว) ซึ่งหมายถึง การนำใบชาจากสายพันธุ์นั้น ๆ เพียงสายพันธุ์เดียว มาบดจนเป็นผงมัทฉะ ซึ่งใบชาอาจจะมาจากฟาร์มเดียวกันหรือปลูกคนละฟาร์มก็ได้ จุดเด่นที่สำคัญที่สุดคือ “เอกลักษณ์ที่ชัดเจนตามแต่ละสายพันธุ์” ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป เช่น บางสายพันธุ์ให้รสอูมามิที่ชัดเจน บางสายพันธุ์เด่นเรื่องกลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ หรือบางสายพันธุ์ให้สีเขียวที่เข้มเป็นพิเศษ

    เมื่อเทียบกับมัทฉะแบบเบลนด์แล้ว มัทฉะสายพันธุ์เดี่ยวอาจให้รสชาติที่ “ไม่กลมกล่อมเท่า” และมีความสม่ำเสมอที่น้อยกว่า เนื่องจากคุณภาพและรสชาติจะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพดินฟ้าอากาศในแต่ละปี อย่างไรก็ตามด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและหาไม่ได้จากที่ไหน ทำให้มัทฉะสายพันธุ์เดี่ยว “เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหมู่แฟนพันธุ์แท้ของมัทฉะ” ที่ต้องการค้นหารสชาติใหม่ ๆ ที่เฉพาะตัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับร้านที่ต้องการสร้างจุดขายแบบ “Premium” หรือ “Limited Edition”

    “มัทฉะเบลนด์ (Blended Matcha)” คือมัทฉะที่เกิดจากการนำใบชา “หลายสายพันธุ์” ที่มีลักษณะเด่นแตกต่างกันมาผสมผสานกันอย่างลงตัวโดยผู้เชี่ยวชาญด้านชา ยกตัวอย่างเช่น การนำใบชาสายพันธุ์ที่ให้ “กลิ่นหอม” มาผสมกับสายพันธุ์ที่ให้ “สีเขียวเข้ม” และสายพันธุ์ที่ให้ “รสชาติอูมามิ”

    รู้หรือไม่? "มัทฉะสายพันธุ์เดี่ยว" และ "มัทฉะเบลนด์" ต่างกันในเรื่องกลิ่น รส และต้นทุนอย่างไร? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับร้านคุณ ดูได้ที่นี่!

    เป้าหมายสำคัญของการเบลนด์คือการสร้างสรรค์ผงมัทฉะที่มีความกลมกล่อม, รสชาติซับซ้อน, อร่อย และมีรสชาติคงที่สม่ำเสมอ ในทุก ๆ ล็อตการผลิต ซึ่งมัทฉะส่วนใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นจะเป็นมัทฉะแบบเบลนด์ เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถควบคุมคุณภาพได้ง่าย และรับประกันได้ว่าลูกค้าจะได้สัมผัสรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมคงที่ตลอดทั้งปี ทำให้เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้สำหรับร้านเครื่องดื่มที่ต้องการรักษามาตรฐาน

    เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ลองดูตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของมัทฉะทั้งสองประเภท :

    ปัจจัยมัทฉะสายพันธุ์เดี่ยว (Single Cultivar)มัทฉะเบลนด์ (Blended)
    แหล่งปลูก / ที่มามาจากชาสายพันธุ์เดียว (อาจมาจากหลายฟาร์ม)ผสมจากชาหลายสายพันธุ์ (จากหลายแหล่งปลูก)
    รสชาติ / กลิ่นมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน โดดเด่นตามลักษณะสายพันธุ์กลมกล่อม ซับซ้อน ออกแบบรสชาติได้ตามสูตร
    คุณภาพไม่คงที่เท่าแบบเบลนด์ เปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศแต่ละปีมีความเสถียรสูงมาก ควบคุมคุณภาพได้ง่าย
    การผลิตต้องคัดสรรสายพันธุ์ที่ต้องการโดยเฉพาะสามารถเลือกส่วนประกอบจากหลายสายพันธุ์เพื่อปรับสมดุล
    ต้นทุน / ราคาขายโดยทั่วไปมักมีราคาสูงกว่า และหายากกว่าอาจมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า (ขึ้นอยู่กับเกรด)

    คำตอบของคำถามนี้ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และกลุ่มเป้าหมายของร้านคุณเป็นสำคัญ!

    รู้หรือไม่? "มัทฉะสายพันธุ์เดี่ยว" และ "มัทฉะเบลนด์" ต่างกันในเรื่องกลิ่น รส และต้นทุนอย่างไร? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับร้านคุณ ดูได้ที่นี่!
    • ถ้าร้านของคุณเน้นขายเมนูในปริมาณมาก : และมีฐานลูกค้ากว้างที่ต้องการรสชาติที่คุ้นเคยทุกครั้ง “มัทฉะเบลนด์” อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากให้ “คงที่” และช่วยให้ควบคุมต้นทุน ได้ง่ายกว่า
    • ถ้าร้านของคุณต้องการสร้างความแตกต่าง : และวางตำแหน่งตัวเองเป็นร้านมัทฉะพรีเมียม, มีเมนู Signature ที่โดดเด่น หรือต้องการสร้างเรื่องราวให้กับเครื่องดื่ม “มัทฉะสายพันธุ์เดี่ยว” จะเป็นจุดขายที่แข็งแรงและดึงดูดลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้เป็นอย่างดี
    • ใช้ทั้งสองแบบผสมผสานกัน : ร้านค้าจำนวนมากเลือกใช้กลยุทธ์แบบนี้ โดยอาจมีเมนูมัทฉะลาเต้ทั่วไปที่ใช้มัทฉะเบลนด์เพื่อให้ได้รสชาติคงที่และราคาเข้าถึงได้ ควบคู่ไปกับเมนูพิเศษ เช่น Usucha (ชามัทฉะใส) หรือเมนู Limited Edition ที่ใช้ “มัทฉะสายพันธุ์เดี่ยว” จากเมือง Uji เพื่อสร้างประสบการณ์พรีเมียมให้กับลูกค้า

    สิ่งสำคัญคือการคำนวณต้นทุนต่อกรัมและความเข้มข้นที่ใช้ในแต่ละเมนู เพื่อให้แน่ใจว่าการกำหนดราคาขายของคุณนั้นสมเหตุสมผลและสร้างกำไรได้อย่างยั่งยืน

    ไม่ว่าคุณจะเลือกมัทฉะประเภทใด? การประเมินคุณภาพเบื้องต้นเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ

    1. สี : มัทฉะคุณภาพดีควรมีสีเขียวสดใส ไม่ใช่สีเขียวอมเหลือง
    2. กลิ่น : ควรมีกลิ่นหอมสดชื่นของชาเขียว มีความหวานอ่อน ๆ คล้ายพืชผัก
    3. ความละเอียด : ยิ่งผงมัทฉะมีความละเอียดมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งละลายน้ำได้ดีและให้เนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม ไม่สากลิ้น
    4. การละลาย : เมื่อชงกับน้ำร้อน มัทฉะที่ดีไม่ควรจับตัวเป็นก้อนแข็ง
    5. ความบริสุทธิ์ : สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่ามัทฉะที่คุณเลือกไม่มีการเติมแป้ง, สี หรือกลิ่นสังเคราะห์ ซึ่ง Momomatcha ได้เน้นย้ำในจุดนี้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ “ไม่มีการผสมแป้งหรือเติมแต่งสีและกลิ่นใด ๆ”
    6. ทดสอบชิม : วิธีที่ดีที่สุดคือการทดลองชงดื่มด้วยสูตรมาตรฐาน (เช่น มัทฉะ 1 ช้อนชา ต่อน้ำร้อน) เพื่อประเมินรสชาติและเนื้อสัมผัสที่แท้จริง
    7. รวบรวมความคิดเห็น : ให้ทีมงานและลูกค้าที่ไว้ใจได้ลองชิมและให้การตอบกลับ เพื่อประกอบการตัดสินใจ
    • ถาม : มัทฉะสายพันธุ์เดี่ยวเหมาะกับเมนูแบบไหน?
    • ตอบ : เหมาะกับเมนูที่ต้องการเน้นรสชาติเฉพาะตัว เช่น มัทฉะร้อน, เมนูพรีเมียม หรือเมนู Signature ที่ขายในจำนวนจำกัดเพื่อสร้างความพิเศษ
    • ถาม : มัทฉะเบลนด์ใช้ในเมนูเย็นได้ไหม?
    • ตอบ : ได้แน่นอน และเป็นที่นิยมอย่างมากในเมนูเย็น เช่น มัทฉะลาเต้ เพราะให้รสชาติที่คงที่และมักจะออกแบบมาให้เข้ากับนมได้ดี แต่อย่างไรก็ตามควรปรับสูตรการชงให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการตกตะกอน
    • ถาม : ถ้าคุณภาพใบชาจาก Single-Origin ในปีใดลดลง ควรทำอย่างไร?
    • ตอบ : ควรมีแผนสำรอง เช่น การมองหาแหล่งปลูกอื่นที่มีโปรไฟล์รสชาติใกล้เคียงกัน หรือเตรียมสูตรที่ใช้มัทฉะเบลนด์คุณภาพสูงไว้เป็นตัวเลือกสำรอง เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้
    • ถาม : จะรู้ได้อย่างไรว่ามัทฉะไม่มีแป้งผสม?
    • ตอบ : ตรวจฉลากให้ระบุ “100% Matcha จาก Tencha” หรือ เลือกแบรนด์ที่ประกาศชัด เช่น Momo Matcha

    ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีคำตอบว่ามัทฉะชนิดใด “ดีที่สุด” เพราะตัวเลือกที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับกลยุทธ์, เมนู และกลุ่มเป้าหมายของร้านคุณ

    • ถ้าคุณเลือกสายพันธุ์เดี่ยว (Single-Origin) : คุณกำลังเลือกลงทุนใน “เอกลักษณ์” และ “เรื่องราว” แต่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความผันแปรของรสชาติและอาจมีต้นทุนที่สูงขึ้น
    • ถ้าคุณเลือกเบลนด์ (Blended) : คุณจะได้เปรียบในเรื่อง “ความคงที่” และ “การควบคุมต้นทุน” ซึ่งเหมาะกับการดำเนินธุรกิจในระยะยาว แต่อาจต้องแลกมากับการสูญเสียเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นไป

    คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ “การทดลองใช้ทั้งสองแบบ” กับเมนูในร้านของคุณ วัดผลจากการตอบกลับของลูกค้า, ความง่ายในการทำงานของบาริสต้า และผลกำไร เพื่อหาจุดสมดุลที่ลงตัวที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

    รู้หรือไม่? "มัทฉะสายพันธุ์เดี่ยว" และ "มัทฉะเบลนด์" ต่างกันในเรื่องกลิ่น รส และต้นทุนอย่างไร? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับร้านคุณ ดูได้ที่นี่!

    ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่รักการชงดื่มเองที่บ้าน หรือเป็นเจ้าของกิจการร้านเครื่องดื่มที่กำลังมองหาวัตถุดิบคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า เราคือคำตอบของคุณ เราจัดจำหน่ายผงชงเครื่องดื่มเกรดพรีเมียมหลากหลายชนิด ตั้งแต่ ผงอูจิมัทฉะ, ผงโกโก้ และดาร์กโกโก้ ไปจนถึงผงครีมชีส ท็อปปิ้งสุดฮิต การันตีคุณภาพในราคาที่ถูกที่สุด พร้อมเรทราคาส่งสำหรับผู้ประกอบการโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณสร้างสรรค์เมนูที่ดีที่สุดในต้นทุนที่ควบคุมได้ พร้อมบริการจัดส่งที่ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ ให้คุณเข้าถึงวัตถุดิบที่ดีที่สุดได้ง่ายกว่าที่เคย

    ช่องทางการติดต่อและสั่งซื้อ :

    shopee momo คลิก
    lazada momo คลิก